หลาย ๆ คนเริ่มต้นทำธุรกิจเล็ก ๆ แบบไม่เป็นทางการ จนวันหนึ่งยอดขายพุ่ง รายได้พุ่ง เชื่อเลยว่าจะมีหนึ่งคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัว นั่นก็คือ ถึงเวลาจดบริษัทหรือยัง ?
ทั้งยังมีความคิดว่าเกณฑ์ในการจดบริษัทขึ้นอยู่กับรายได้เป็นหลัก แต่ในความเป็นจริง มันไม่ได้มีแค่ตัวเลขในบัญชีเท่านั้น เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องถูกนำมาพิจารณาร่วมด้วย เช่น ภาระภาษี ความน่าเชื่อถือ การวางแผนขยายธุรกิจ
บทความนี้ ชอบการบัญชี จะพาไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการจดบริษัท เปรียบเทียบข้อดี ข้อควรรู้ และแนวทางในการตัดสินใจอย่างเป็นระบบว่ารายได้แค่ไหนถึงเหมาะที่จะจดบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่ากิจการของคุณจะก้าวไปในทางที่เหมาะสมที่สุดค่ะ
ความหมายของการ “จดบริษัท”
การจดบริษัท หมายถึง การจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคล ซึ่งมีหลายประเภท เช่น บริษัทจำกัด หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด
ความแตกต่างระหว่างบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล คือ นิติบุคคลมีสถานะทางกฎหมายแยกจากเจ้าของ ทำให้มีความรับผิดชอบจำกัดตามทุนจดทะเบียน
มีรายได้เท่าไหร่ ถึงต้องพิจารณาจดบริษัท ?
การพิจารณาจดทะเบียนบริษัทไม่ควรดูแค่รายได้เพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาตามปัจจัยดังนี้
1. รายได้สุทธิประจำปี
หากมีรายได้สุทธิ (หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน) มากกว่า 750,000 บาทต่อปี ควรพิจารณาจดทะเบียนบริษัท เนื่องจากอัตราภาษีบุคคลธรรมดาในระดับนี้จะสูงกว่าอัตราภาษีนิติบุคคล
2. ภาระภาษี
การเป็นนิติบุคคลสามารถช่วยลดภาระภาษีได้ โดยเฉพาะเมื่อรายได้สุทธิสูงขึ้น
3. ค่าใช้จ่ายที่สามารถหักลดหย่อนได้
นิติบุคคลสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามจริง ทำให้การวางแผนภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สัญญาณเตือนว่า “คุณควรจดบริษัทได้แล้ว”
1. รายได้เติบโตต่อเนื่อง
หากธุรกิจมีแนวโน้มรายได้เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
2. มีลูกค้าองค์กรหรือคู่ค้าขอใบกำกับภาษี
การมีนิติบุคคลจะช่วยให้การออกใบกำกับภาษีเป็นไปอย่างถูกต้อง
3. มีค่าใช้จ่ายที่สามารถบันทึกบัญชีได้
การบันทึกค่าใช้จ่ายที่ถูกต้องจะช่วยในการวางแผนภาษี
4. ต้องการแยกบัญชีส่วนตัวและบัญชีธุรกิจอย่างชัดเจน
เพื่อความโปร่งใสและการบริหารจัดการที่ดี
ข้อดีของการจดบริษัท
1. ภาษีลดลง
อัตราภาษีนิติบุคคลมักจะต่ำกว่าอัตราภาษีบุคคลธรรมดาในระดับรายได้ที่สูง
2. ความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น
การมีสถานะเป็นนิติบุคคลทำให้ธุรกิจดูน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตาลูกค้า
3. แยกทรัพย์สินธุรกิจและส่วนตัว
ช่วยป้องกันความเสี่ยงทางการเงินส่วนบุคคล
4. มีสิทธิในการวางแผนภาษี
สามารถใช้กลยุทธ์ทางเงินเพื่อประหยัดภาษีได้
5. ขยายธุรกิจหรือขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
สถาบันการเงินมักให้ความสำคัญกับนิติบุคคลในการพิจารณาสินเชื่อ
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนที่จะจดบริษัท
1. ภาระหน้าที่
ต้องจัดทำบัญชีและรายงานภาษีตามกฎหมาย
2. ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น
มีค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนและดำเนินการต่าง ๆ
3. การจดทะเบียน VAT
หากมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
4. การมีนักบัญชีหรือสำนักงานบัญชีช่วยดูแล
เพื่อความถูกต้องในการจัดการบัญชีและภาษี
การตัดสินใจจดบริษัท ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่รายได้อย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของภาพรวมธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษี ความน่าเชื่อถือ ความพร้อมในการจัดการบัญชี และเป้าหมายในอนาคต
หากคุณเริ่มมีรายได้มากขึ้น มีลูกค้าองค์กร ต้องออกใบกำกับภาษี หรืออยากแยกเงินส่วนตัวออกจากเงินธุรกิจอย่างจริงจัง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณพร้อมแล้วค่ะ
จะจดบริษัททั้งที ต้องที่ ชอบการบัญชี เท่านั้น !
การจดบริษัทคือ จุดเริ่มต้นของความมั่นคงทางธุรกิจ และเพื่อให้ก้าวแรกของคุณถูกต้อง มั่นใจ และไม่สะดุด ชอบการบัญชี พร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น
- ให้คำปรึกษาก่อนจดทะเบียน ว่าควรเป็นบริษัท หรือ หจก.
- ดูแลการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ถูกต้อง
- ช่วยยื่นภาษี วางแผนภาษี และทำบัญชีอย่างมืออาชีพ
- ช่วยให้คุณโฟกัสกับการทำธุรกิจได้เต็มที่ ส่วนเรื่องตัวเลข…เราจัดการให้