สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ หนึ่งในคำถามที่ได้ยินบ่อยมากก็คือ ต้องจด VAT ไหม จดแล้วดีกว่ายังไง หรือต้องเสียภาษีเพิ่มหรือเปล่า ซึ่งก่อนที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้ จะต้องทำความรู้จักภาษีมูลค่าเพิ่มกันก่อนนะคะ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT : Value Added Tax) คือ ภาษีทางอ้อมที่เรียกเก็บจากการขายสินค้าและให้บริการในประเทศไทย อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยปัจจุบันอยู่ที่ 7% ของราคาสินค้าหรือบริการ โดยผู้ขายหรือผู้ให้บริการจะเป็นผู้เรียกเก็บภาษีจากลูกค้า แล้วนำส่งให้กรมสรรพากรอีกทีหนึ่ง
การจดทะเบียน VAT คืออะไร ?
การจดทะเบียน VAT คือกระบวนการที่ผู้ประกอบการหรือกิจการลงทะเบียนกับกรมสรรพากร เพื่อให้มีสิทธิในการเรียกเก็บและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามที่กฎหมายกำหนด
หลังจากที่จดเสร็จแล้ว ผู้ประกอบการจะได้รับเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบได้ (ที่ต้องมีชื่อ-ที่อยู่-เลขผู้เสียภาษีของผู้ซื้อและผู้ขาย) นอกจากนั้นแล้ว ผู้ประกอบการจะต้อง
- ออกใบกำกับภาษีสำหรับทุกการขายสินค้า/บริการ
- ยื่นแบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน (แม้ไม่มีรายได้ก็ต้องยื่น)
- ส่งภาษีที่เรียกเก็บจากลูกค้าให้กรมสรรพากรภายในวันที่ 23 ของเดือนถัดไป
- สามารถนำ VAT ที่จ่ายไปกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ (ภาษีซื้อ) มา หักออกจาก VAT ที่เก็บจากลูกค้า (ภาษีขาย) ได้
จด VAT ไม่ยากอย่างที่คิด! แนะนำวิธีจด VAT ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ข้อดีของการจด VAT
1. เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
การจด VAT ทำให้ธุรกิจมีตัวตน และโปร่งใส ในสายตาลูกค้าและคู่ค้า เพราะแสดงให้เห็นว่ามีรายได้เป็นระบบ พร้อมจ่ายภาษีตามกฎหมาย และมีการออกเอกสารภาษีได้ครบถ้วน
2. สามารถขอคืนภาษีซื้อได้
เมื่อจด VAT แล้ว ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่มีภาษีซื้อ เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าโฆษณาออนไลน์ หรือค่าน้ำมัน มาหักออกจาก VAT ที่เก็บจากลูกค้าได้ ทำให้ “จ่าย VAT น้อยลง” หรือในบางกรณีอาจ ได้รับเงินคืนหากภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย
ภาษีซื้อ ภาษีขาย คืออะไร ธุรกิจใหม่ต้องรู้ !
3. พร้อมขยายธุรกิจในอนาคต
หากมีแพลนที่จะขยายกิจการ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสาขาใหม่ การทำธุรกิจร่วมกับบริษัทใหญ่ การหานักลงทุนหรือพาร์ตเนอร์ การจด VAT จะช่วยให้เอกสารบัญชีและภาษี “ดูดี” และ “พร้อมตรวจสอบ” ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเติบโตอย่างเป็นระบบในระยะยาว
4. สามารถเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐและเอกชน
โครงการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ หรือบริษัทใหญ่ ๆ มักมีข้อกำหนดให้ผู้เสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลที่จด VAT แล้วเท่านั้น และต้องออกใบกำกับภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย การจด VAT จึงเท่ากับเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ที่อาจพลาดหากไม่อยู่ในระบบ
5. วางแผนบัญชีและภาษีได้ชัดเจนขึ้น
การอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้ต้องจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้สามารถวางแผนการเงินได้แม่นยำ ควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น และเป็นการป้องกันปัญหาภาษีย้อนหลังในอนาคต
วางแผนภาษีดี ประหยัดเงินได้มากกว่าที่คิด
ข้อเสียของการจด VAT
1. ภาระในการจัดทำเอกสารและยื่นภาษีรายเดือน
หลังจากที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว จะต้องจัดทำและยื่นเอกสารภาษีเป็นประจำทุกเดือน ไม่ว่าจะเป็น ภ.พ.30 ใบกำกับภาษี รายงานภาษีซื้อ – ภาษีขาย หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
แม้ว่าจะไม่มีรายได้ในเดือนนั้น ๆ แต่ก็ต้องยื่นแบบภาษีตามกฎหมาย หากลืมยื่นหรือยื่นช้า จะต้องจ่ายค่าปรับทันที และอาจโดนดอกเบี้ยจากยอดค้างชำระอีกด้วย
2. ต้องออกเอกสารภาษีอย่างถูกต้องทุกครั้ง
การออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ ต้องระบุข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อ-ที่อยู่-เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อและผู้ขาย เลขที่ใบกำกับ รายละเอียดสินค้า ฯลฯ หากออกผิดหรือขาดข้อมูลสำคัญ อาจโดนกรมสรรพากรตีตกและไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานหักภาษีได้ ซึ่งส่งผลต่อการนำส่งภาษีในเดือนนั้นทันที
3. เสียภาษีทันทีแม้ยังไม่ได้รับเงิน
ในกรณีที่ออกใบกำกับภาษีแล้ว แต่ลูกค้ายังไม่จ่ายเงิน ก็ยังต้องนำส่ง VAT ให้สรรพากรภายในวันที่ 23 ของเดือนถัดไป ในกรณีนี้อาจส่งผลต่อกระแสเงินสดของกิจการโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กที่ต้องหมุนเงินตลอดเวลา
4. เพิ่มต้นทุนสินค้าหรือบริการ
บางกิจการไม่สามารถผลักภาระภาษี 7% ไปให้ลูกค้าได้ เช่น ลูกค้าที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือไม่สามารถรับ VAT คืนได้ ทำให้กิจการต้องแบกรับภาษีเอง ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าหรือบริการสูงขึ้น ทั้งยังทำให้แข่งขันเรื่องราคากับกิจการที่ยังไม่จด VAT ได้ยากขึ้น
รู้ไว้ใช่ว่า ! ธุรกิจใดบ้างที่ไม่ต้องจด VAT
5. ต้องเตรียมความพร้อมในการตรวจสอบจากภาครัฐมากขึ้น
เมื่อเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม การดำเนินกิจการจะอยู่ในกรอบของกฎหมายภาษีที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า เอกสาร รายงานบัญชี และภาษีที่ยื่น ต้องถูกต้องและสอดคล้องกัน โดยที่กิจการจะต้องมีความพร้อม หากมีการตรวจสอบแบบสุ่มหรือขอเอกสารจากกรมสรรพากร ซึ่งเป็นเรื่องปกติในระบบภาษีของทุกประเทศ
การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นการนำพาธุรกิจเข้าสู่ระบบภาษีที่จริงจังมากขึ้น โดยที่ผู้ประกอบการมือใหม่จะต้องพิจารณาทั้งข้อดี และข้อเสียอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มค่ะ
หากมีความกังวลเรี่องภาษี หรือเรื่องบัญชี สามารถติดต่อเข้ามาขอคำปรึกษาโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายที่ชอบการบัญชีได้เลยค่ะ