การทำบัญชี เป็นหนึ่งในสิ่งที่ธุรกิจส่วนใหญ่ มักไม่เห็นความสำคัญ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจที่เปิดทำการได้ไม่นาน ซึ่งมองว่าการทำบัญชีเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม มีกฎหมายกำหนดให้ธุรกิจต้องทำบัญชีเพื่อความโปร่งใสในการดำเนินการ ที่หากไม่ปฏิบัติตามก็จะได้รับโทษ ทั้งส่งผลเสียต่อการดำเนินธุรกิจอีกด้วย
ในบทความนี้ ชอบการบัญชี จะขอพาผู้อ่านไปทำความเข้าใจว่าการทำบัญชีมีความสำคัญอย่างไร และจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง หากว่าดำเนินธุรกิจ โดยที่ไม่ได้ทำบัญชีค่ะ
การทำบัญชี มีความสำคัญต่อธุรกิจอย่างไร ?
การทำบัญชี เป็นมากกว่าการบันทึกตัวเลขต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เพราะมีความสำคัญต่อการทำธุรกิจ ดังนี้
1. ช่วยให้ธุรกิจได้รับข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้อง
การทำบัญชีช่วยให้เจ้าของธุรกิจรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นรายรับ รายจ่าย หรือกำไร เป็นต้น
2. ช่วยให้บริหารต้นทุนได้ดีขึ้น
ข้อมูลทางบัญชีที่ถูกต้อง จะช่วยให้วางแผนค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นได้
3. เป็นหลักฐานสำคัญในการเสียภาษี
ธุรกิจต้องมีการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมถึงภาษีอื่น ๆ ฉะนั้นแล้ว การไม่มีข้อมูลทางบัญชีที่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดปัญหากับหน่วยงานที่จัดเก็บภาษีได้
4. ทำให้สามารถขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
หากต้องการกู้เงินหรือขอสินเชื่อเพื่อขยายกิจการ การมีรายงานทางบัญชี คือสิ่งที่จำเป็นที่สถาบันการเงินจะนำไปใช้พิจารณาประกอบการอนุมัติสินเชื่อ
5. ป้องกันการทุจริตและข้อผิดพลาดทางการเงิน
การมีระบบบัญชีที่มีคุณภาพ จะช่วยให้สามารถตรวจสอบความผิดปกติของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังสามารถป้องกันการทุจริตในองค์กรได้ด้วย
ธุรกิจที่ต้องทำบัญชี ตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 มาตรา 4 ได้กำหนดให้มีผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 (มาตรา 8 วรรค 1) ได้แก่
1. ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด และห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล
2. บริษัทจำกัด
3. บริษัทมหาชนจำกัด
4. นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย
5. กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
กลุ่มที่ 2 (มาตรา 8 วรรค 1)
บุคคลธรรมดา หรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์กำหนดให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี ได้แก่
1. บุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้มีไว้เพื่อจำหน่าย ผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักร หรือผู้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งสินค้าประเภทแถบเสียงเพลง แถบวิดีทัศน์ และแผ่นซีดี (ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การกำหนดให้บุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียน เป็นผู้มีหน้าที่ทำบัญชี พ.ศ. 2544)
2. บุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนที่มิได้จดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจ โรงงาน แปรสภาพ แกะสลัก และการทำหัตถกรรมจากงาช้าง การค้าปลีก การค้าส่ง งาช้าง และผลิตภัณฑ์จากงาช้าง (ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับงาช้างเป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี พ.ศ. 2551)
ธุรกิจที่ไม่ทำบัญชี มีโทษอย่างไร ?
พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ได้กำหนดโทษของการไม่ทำบัญชีไว้ ดังนี้
1. มาตรา 28 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีที่ไม่จัดทำบัญชีตามที่กำหนด มีโทษปรับสูงสุด 30,000 บาท และปรับรายวัน วันละ 1,000 บาท จนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้อง
2. มาตรา 29 ไม่ปฏิบัติตามการปิดบัญชีและการบันทึกบัญชี เช่น ไม่ส่งมอบเอกสารที่ต้องใช้ประกอบบัญชี มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท
3. มาตรา 30 ไม่ยื่นงบการเงินภายในเวลาที่กำหนด มีโทษปรับสูงสุด 5,000 บาท
4. มาตรา 31 ไม่เก็บรักษาบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้องตามกำหนด (5 ปี) มีโทษปรับสูงสุด 5,000 บาท
5. มาตรา 32 ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับงบการเงิน มีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท
6. มาตรา 34 ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการทำบัญชีที่ถูกต้องและเป็นจริง มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท
7. มาตรา 35 ไม่ปฏิบัติตามกฎเกี่ยวกับการลงรายการบัญชี มีโทษปรับสูงสุด 5,000 บาท
8. มาตรา 40 ในกรณีนิติบุคคลไม่ทำบัญชี กรรมการหรือผู้มีอำนาจบริหารต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งต้องรับโทษเทียบเท่ากับความผิดของนิติบุคคล
หาก ไม่ทำบัญชี จะมีผลกระทบอย่างไร ?
นอกเหนือจากผลกระทบทางกฎหมาย ที่ได้กล่าวไปในหัวข้อที่แล้ว การไม่ทำบัญชียังมีส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลายด้าน เช่น
1. ขาดความโปร่งใส
หากไม่มีระบบบัญชีที่ดี อาจทำให้เกิดปัญหาภายในองค์กร
2. บริหารเงินได้ยาก
การไม่ทำบัญชี อาจทำให้ไม่มีข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้อง ส่งผลให้เกิดการตัดสินใจทางธุรกิจที่ยากขึ้น
3. โอกาสเติบโตที่น้อยลง
นักลงทุนหรือสถาบันการเงิน อาจไม่ให้การสนับสนุนธุรกิจที่ไม่มีงบการเงินที่ชัดเจน
การทำธุรกิจโดยที่ไม่ทำบัญชี ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้ได้รับบทลงโทษที่รุนแรง ทั้งยังส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจอีกด้วยค่ะ
ฉะนั้นแล้ว ในฐานะเจ้าของธุรกิจ เราควรให้ความสำคัญต่อการทำบัญชีตั้งแต่ที่ช่วงแรกที่เปิดทำการ และหากต้องการคำแนะนำ สามารถติดต่อเข้ามาที่ชอบการบัญชีได้เลยค่ะ เรายินดีให้คำปรึกษาในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการทำบัญชี และภาษีค่ะ
อ้างอิง