การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นอกจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่หลายคนคุ้นเคยแล้ว ยังมีภาษีอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจการบางประเภทโดยเฉพาะ
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือกำลังวางแผนจะเริ่มต้นกิจการ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะถือว่ามีความสำคัญมาก เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการป้องกันปัญหาภาษีย้อนหลังที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ฉะนั้นแล้ว ชอบการบัญชี จะพาคุณไปทำความรู้จักภาษีธุรกิจเฉพาะแบบ พร้อมเจาะลึกว่ามีกิจการใดบ้างที่ต้องเสียภาษีนี้กันค่ะ
ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร ?
ภาษีธุรกิจเฉพาะ (Specific Business Tax) หมายถึง ภาษีที่จัดเก็บจากการประกอบกิจการบางประเภท ที่ไม่อยู่ภายใต้การเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยตรง หรือภาษีเงินได้ทั่วไป แต่ก็ยังต้องเสียภาษีในรูปแบบอื่นแทน ทั้งยังกำหนดขึ้นเพื่อให้การจัดเก็บภาษีมีความครอบคลุม และเป็นธรรมต่อกิจการทุกประเภท
กิจการใดบ้าง ที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ?
1. การธนาคาร
2. การที่ประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
3. การรับประกันชีวิต
4. การรับจำนำ
5. การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ เช่น การแลกเปลี่ยนเงินตรา การออก ซื้อ หรือขายตั๋วเงิน การให้กู้ยืมเงินค้ำประกัน
6. การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือหากำไร
7. การประกอบกิจการอื่น ๆ ดังนี้
- การซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ (ตามกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
- ธุรกิจแฟ็กเตอริ่ง
“ธุรกิจแฟ็กเตอริ่ง หมายถึง ธุรกิจที่ให้บริการทางการเงิน โดยรับซื้อหนี้การค้าจากผู้ประกอบการที่ขายสินค้าและบริการแบบเครดิต (ขายเชื่อ) แล้วต้องการเงินสดทันที ผู้ประกอบการสามารถนำลูกหนี้การค้า เช่น ใบแจ้งหนี้ หรือ Invoice มาขายให้บริษัทแฟ็กเตอริ่ง เพื่อแลกกับเงินสดก่อนครบกำหนดชำระได้”
ฐานและอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ
การคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะจะพิจารณาจากฐานภาษี ซึ่งเป็นรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายของกิจการ และอัตราภาษีที่กำหนด ดังนี้
กิจการ | ฐานภาษี | อัตราภาษี |
---|---|---|
กิจการธนาคาร | ดอกเบี้ย ส่วนลด ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ หรือกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายจากการซื้อหรือขายตั๋วเงินหรือตราสาร แสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ | 3% |
การที่ประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครฟองซิเอร์ | ดอกเบี้ย ส่วนลด ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ หรือกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายจากการซื้อหรือขายตั๋วเงินหรือตราสาร แสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ | 3% |
การรับประกันชีวิต | ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม | 2.5% |
การรับจำนำ | เงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทน หรือประโยชน์ใด ๆ อันมีมูลค่าที่ได้รับ หรือพึงได้รับจากการขายของที่จำนำหลุดเป็นสิทธิ | 2.5% |
การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ | ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายจากการแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายเงินตรา การออกตั๋วเงิน หรือการนำเงินออกไปต่างประเทศ | 3% |
การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือหากำไร | รายรับก่อนหักรายจ่าย | 0.1% |
การซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ | กำไรก่อนหักรายจ่ายจากการขายคืนหลักทรัพย์ แต่ไม่รวมถึงดอกเบี้ย เงินปันผล หรือประโยชน์ที่ได้จากหลักทรัพย์ | 3.0% |
ธุรกิจแฟ็กเตอริ่ง | ดอกเบี้ย ส่วนลด ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ | -3.0% |
การยื่นภาษีธุรกิจเฉพาะ
ผู้ประกอบการจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.40) เป็นประจำ ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป นับจากเดือนที่มีรายรับเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีรายรับมากหรือน้อย หรือไม่มีรายรับเลยก็ต้องยื่นแบบไว้ก่อน
วิธียื่นภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. คำนวณรายรับรวมของกิจการในเดือนนั้น
- ใช้ยอด “รายรับก่อนหักค่าใช้จ่าย” จากกิจกรรมที่เข้าข่ายภาษีธุรกิจเฉพาะ เช่น รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์
2. คำนวณภาษีที่ต้องชำระ
- คูณรายรับกับ “อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ” ที่กฎหมายกำหนด (เช่น 3%)
- จากนั้นคิด “ภาษีท้องถิ่น” เพิ่มอีก 10% ของภาษีที่คำนวณได้
3. กรอกแบบ ภ.ธ.40 (สามารถขอรับได้ที่สำนักงานสรรพากร หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์)
4. นำแบบและภาษีไปยื่นที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือยื่นผ่านระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร
5. เก็บหลักฐานการยื่นภาษี และหลักฐานการชำระเงินไว้ทุกครั้ง
เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. แบบฟอร์ม ภ.ธ.40
2. รายงานรายรับประจำเดือน
3. สำเนาทะเบียนพาณิชย์ หรือหนังสือรับรองนิติบุคคล (กรณีบริษัท)
4. หลักฐานการคำนวณภาษี และแบบรายงานบัญชีที่เกี่ยวข้อง
5. หลักฐานการชำระเงินภาษี (หากเคยยื่นออนไลน์ ให้พิมพ์หลักฐานจัดเก็บไว้ด้วย)
หากคุณดำเนินกิจการโดยไม่รู้ว่าเข้าข่ายหรือไม่ อาจเสี่ยงต่อการถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง รวมถึงดอกเบี้ยและเบี้ยปรับตามมาอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้น การศึกษารายละเอียดให้เข้าใจ เช่น ฐานภาษี อัตราภาษี และขั้นตอนการยื่นแบบ ภ.ธ.40 อย่างถูกต้องและตรงเวลา จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับเจ้าของกิจการทุกคน
หากยังไม่มั่นใจว่าธุรกิจของคุณต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ หรือไม่สะดวกในการยื่นภาษีด้วยตัวเอง “ชอบการบัญชี” พร้อมดูแลคุณตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งวางแผนภาษี ทำบัญชี และยื่นภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย หมดกังวลเรื่องเอกสารและความผิดพลาด เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมช่วยให้คุณทำธุรกิจได้อย่างอุ่นใจค่ะ