ปัจจุบันหลายกิจการในไทย ทั้งร้านอาหาร รับเหมาก่อสร้าง หรือธุรกิจบริการทั่วไป ต่างต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานที่คนไทยไม่ทำ แต่รู้หรือไม่ว่าการจ้างแรงงานต่างด้าวในไทย ไม่ใช่ว่าอยากจ้างกี่คนก็ได้
เพราะกฎหมายกำหนดสัดส่วนแรงงานไทยต่อแรงงานต่างด้าวอย่างชัดเจน และถ้าทำผิดก็มีสิทธิโดนปรับหลักแสนถึงหลักล้านบาทเลยนะคะ
และในบทความนี้ ชอบการบัญชี จะพาคุณไปทำความเข้าใจแบบละเอียดว่า ต้องมีคนไทยกี่คนก่อน ถึงจะจ้างแรงงานต่างด้าวได้ ต้องจ้างในอัตราส่วนเท่าไหร่ มีข้อยกเว้นไหม และถ้าทำผิดจะเกิดอะไรขึ้นค่ะ
แรงงานต่างด้าว คืออะไร ?
แรงงานต่างด้าว หมายถึง บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องมีใบอนุญาตทำงาน (work permit) และหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่กฎหมายกำหนด
แรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานในภาคการผลิต ก่อสร้าง เกษตรกรรม การประมง การบริการ และครัวเรือน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแรงงานสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แรงงานกลุ่มใดบ้าง ที่เข้าข่ายแรงงานต่างด้าว ?
แรงงานต่างด้าวที่เข้าข่ายตามกฎหมายไทย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติหลัก ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา (CLM)
- แรงงานต่างด้าวทั่วไป เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินเดีย จีน บังกลาเทศ
- แรงงานต่างด้าวที่มีทักษะสูงหรือผู้เชี่ยวชาญ เช่น วิศวกร ผู้บริหาร ครูสอนภาษา หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
ทำไมถึงมีการกำหนดสัดส่วนแรงงานไทย ต่อแรงงานต่างด้าว ?
1. ปกป้องสิทธิแรงงานไทย
- เพื่อไม่ให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาแทนที่แรงงานไทยในทุกระดับจนหมด
- ลดปัญหาการกดค่าแรง เช่น นายจ้างเลือกจ้างต่างด้าวที่ค่าแรงต่ำกว่า ทำให้แรงงานไทยตกงานหรือได้ค่าแรงต่ำเกินมาตรฐาน
- กระตุ้นให้นายจ้างสร้างความสมดุลในการจ้างงานคนไทยควบคู่ไปกับต่างด้าว
2. ควบคุมตลาดแรงงาน
- ป้องกันการนำเข้าแรงงานเกินความต้องการตลาดจนเกิดภาวะล้นงาน
- ช่วยให้รัฐสามารถบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ ลดปัญหาแรงงานเถื่อนหรือแรงงานลักลอบเข้าเมือง
- ช่วยวางแผนนโยบายด้านแรงงานระยะยาว เช่น การพัฒนาทักษะแรงงานไทยให้แข่งขันได้
3. สร้างสมดุลทางเศรษฐกิจและสังคม
- แรงงานต่างด้าวควรมีบทบาทเสริมการเติบโต ไม่ใช่เข้ามาแย่งโอกาสแรงงานในประเทศ
- ลดความเสี่ยงความขัดแย้งระหว่างคนไทยกับต่างด้าวในชุมชนหรือสถานที่ทำงาน
- ส่งเสริมการจ้างงานในท้องถิ่น ทำให้รายได้หมุนเวียนภายในประเทศมากขึ้น
4. กระตุ้นการพัฒนาฝีมือแรงงานไทย
- ถ้านายจ้างรู้ว่าต้องจ้างแรงงานไทยเป็นหลัก → ย่อมต้องลงทุนพัฒนาทักษะพนักงานไทยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดการพึ่งพาแรงงานต่างด้าวมากเกินไปในภาคเศรษฐกิจสำคัญ เช่น การผลิต เกษตร การท่องเที่ยว
5. ลดความเสี่ยงของธุรกิจ
- หากกิจการพึ่งพาแรงงานต่างด้าวมากเกินไป แล้วเกิดกรณีรัฐปรับเงื่อนไข เช่น ยกเลิกโควต้า หรือออกกฎหมายใหม่ จะทำให้ธุรกิจปรับตัวได้ยาก
- การมีแรงงานไทยในสัดส่วนที่เหมาะสม จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการหยุดชะงักการผลิตหรือบริการ
- ช่วยสร้างความยั่งยืนในระยะยาวให้ธุรกิจ ไม่ต้องเสี่ยงเสียเวลา เสียเงินกับค่าปรับหรือการแก้ไขปัญหาแรงงานฉุกเฉิน
อัตราส่วนแรงงานไทยต่อแรงงานต่างด้าว
ตามหลักเกณฑ์ที่บังคับใช้ในปัจจุบัน อัตราส่วนแรงงานไทย ต่อแรงงานต่างด้าวคือ 1 : 4 หรือถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ หากจะจ้างแรงงานต่างด้าว 1 คน ต้องมีแรงงานไทยอย่างน้อย 4 คนนั่นเอง
ธุรกิจประเภทใดที่ได้รับการยกเว้นอัตราส่วนนี้บ้าง ?
แม้ส่วนใหญ่ต้องปฏิบัติตามอัตราส่วน 1:4 แต่กฎหมายก็มีข้อยกเว้นสำหรับบางธุรกิจ เช่น
- ธุรกิจส่งออกหรืออุตสาหกรรมพิเศษ ที่ต้องใช้แรงงานเฉพาะทาง
- ธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่จ้างผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ
- การจ้างแรงงานตาม MOU ภาครัฐ เช่น ในภาคเกษตรหรือประมง
- เขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ที่ภาครัฐอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าวมากกว่าเกณฑ์
หากจ้างแรงงานต่างด้าวเกินอัตราส่วน จะเกิดอะไรขึ้น ?
- ค่าปรับทางปกครอง 10,000–100,000 บาท/คนที่จ้างเกิน
- ห้ามจ้างงานเพิ่ม จนกว่าจะแก้ไขให้ถูกต้อง
- เพิกถอนใบอนุญาตทำงาน ของแรงงานต่างด้าว
- ถูกขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) ไม่ให้ขออนุญาตจ้างแรงงานต่างด้าวในอนาคต
อัตราส่วนในการจ้างแรงงานต่างด้าว ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของกิจการต้องศึกษาให้ละเอียด ไม่ใช่แค่เลือกคนมาทำงาน แต่ต้องเข้าใจเรื่องกฎหมาย สัดส่วนแรงงาน และขั้นตอนการขออนุญาตให้เรียบร้อย สุดท้ายนี้
หากต้องการที่ปรึกษาเรื่องบัญชี หรือการวางแผนธุรกิจ สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่