รู้ก่อนจด ! ภาษีสำหรับนิติบุคคล มีอะไรบ้าง ?

การเริ่มต้นธุรกิจด้วยการจดทะเบียนนิติบุคคล ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ธุรกิจมีความมั่นคง และมีความน่าเชื่อถือในสายตาคู่ค้า หรือผู้ที่เข้ามาใช้บริการ ในการทำธุรกิจนั้น นอกจากจะต้องมีความรู้ในเรื่องการวางกลยุทธ์ต่าง ๆ แล้ว ยังมีสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือเรื่องของภาษีนั่นเอง แล้วนิติบุคคล ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง เรามาดูไปพร้อม ๆ กันนะคะ

ภาษีเงินได้นิติบุคคล

เริ่มต้นด้วยภาษีที่หลาย ๆ คน อาจจะเคยเห็น หรือเคยยื่นภาษีประเภทนี้กันมาบ้างแล้ว และไม่ได้แตกต่างจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเลย นั่นก็คือ ภาษีเงินได้นิติบุคคล นั่นเอง แต่ก็มีรายละเอียดบางส่วนที่แตกต่างกัน

ภาษีเงินได้นิติบุคคล จะจัดเก็บจากกำไรหลังจากที่หักลบด้วยต้นทุน โดยมีการจัดทำบัญชีอย่างชัดเจน ว่าเงินทุนที่ใช้จ่ายในปีนั้น ๆ มีอยู่เท่าไร มีรายได้เท่าไร เมื่อนำมาหักลบกันแล้ว ตัวเลขของกำไรเป็นอย่างไร โดยส่วนที่เป็นกำไรเท่านั้น ที่จะถือว่าเป็นรายได้ที่ต้องมาคำนวณภาษี

ตามปกติภาษีเงินได้นิติบุคคล จะจัดเก็บเป็นรายปี โดยผู้มีรายได้ต้องนำไปแสดงรายการตามแบบแสดงรายการภาษี และในบางกรณีก็มีผู้มีเงินได้บางประเภท ที่สามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีแบบครึ่งปี จากรายได้ที่เกิดขึ้นในครึ่งปีแรกได้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระภาษีที่ต้องชำระในช่วงปลายปีค่ะ

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

การทำธุรกิจในฐานะนิติบุคคลตามกฎหมายนั้น จำเป็นที่จะต้องจ้างบุคคลภายนอกเข้ามาทำงาน หรือมีการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของบริษัทที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยทำการหักจากยอดเงินที่ต้องจ่ายให้กับพนักงาน แล้วนำไปยื่นให้ทางกรมสรรพากร

การหัก ณ ที่จ่าย เป็นการยืนยันว่าในการจ่ายเงินเพื่อจ้างงานของนิติบุคคลในแต่ละครั้งนั้น จะทำให้ทางกรมสรรพากรรับรู้รายได้บางส่วนของผู้ที่ได้รับเงิน โดยภาษีในส่วนนี้ จะถูกนับว่าเป็นภาษีที่บุคคลที่ได้รับรายได้ ได้จ่ายล่วงหน้าแล้ว ซึ่งจะต้องจ่ายเพิ่ม หรือจะขอคืนภาษีได้นั้น ขึ้นอยู่ที่ว่าบุคคลนั้น ๆ เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามากน้อยแค่ไหน ถ้าหากว่าเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย มากกว่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องเสียในปีนั้น ๆ ก็สามารถขอคืนภาษีได้นั่นเอง

ยกตัวอย่างเช่น บริษัท A จ้างนาย B ให้มาทำงานให้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายเงิน บริษัท A ต้องทำการหัก ณ ที่จ่าย ก่อนที่จะจ่ายเงินให้กับนาย B โดยที่นาย B สามารถขอคืนภาษีในส่วนนี้ได้ โดยภาษีเงินได้ที่นาย B ต้องจ่ายในปีนั้น ๆ ต้องมากกว่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย ถึงจะมีสิทธิขอคืนภาษีค่ะ

ภาษีมูลค่าเพิ่ม

มาต่อกันที่ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กันค่ะ หลาย ๆ คน คงจะคุ้นเคยกับภาษีนี้อยู่แล้ว จากการซื้อสินค้า หรือการใช้บริการ โดยทั่วไปธุรกิจเกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะบุคคลธรรมดา หรือที่จดทะเบียนบริษัทแล้วนั้น เมื่อมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาท/ปี มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีทางอ้อม ที่สามารถผลักภาระให้กับผู้บริโภค หรือผู้ใช้บริการได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจต้องคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มจากราคาคาสินค้า หรือบริการเมื่อที่ธุรกิจของเรา มีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาท/ปี กรมสรรพากร ก็จะเริ่มเก็บภาษีในส่วนนี้ทันที

สำหรับธุรกิจใหม่ หากว่าธุรกิจของเรามีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาท/ปี ก็ควรจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้ถูกต้องตามกฎหมายค่ะ

ภาษีธุรกิจเฉพาะ

ในส่วนของภาษีธุรกิจเฉพาะ ก็ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อน เพราะชื่อของมันก็บอกอยู่แล้วว่าต้องจ่ายเฉพาะธุรกิจที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจธนาคาร, การรับจำนำ และธุรกิจหลักทรัพย์ เป็นต้น

ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นภาษีที่ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ต้องจ่าย แม้ว่าจะไม่ได้มีการระบุเอาไว้ในประมวลรัษฎากร แต่ก็มีการระบุเอาไว้ในกฎหมายเฉพาะของธุรกิจแต่ละประเภท หากว่าธุรกิจของเราอยู่ในประเภทธุรกิจเฉพาะเหล่านั้น ก็ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะค่ะ

อากรแสตมป์

อากรแสตมป์ คือภาษีทางอ้อมที่เก็บจากการทำสัญญา หรือเอกสารบางประเภท ตัวอย่างของอากรแสตมป์ที่พบเห็นได้ทั่วไป เช่น สัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน, สัญญาเช่าที่ดิน, สัญญาจ้างทำของ หรือสัญญากู้ยืม เป็นต้น

โดยรายละเอียดเพิ่มเติม ก็จะแตกต่างกันตามอากรแสตมป์แต่ละประเภท ทั้งนี้ อากรแสตมป์บางประเภท ก็ยังมีการกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ฝ่ายใดจะเป็นผู้ที่ต้องจ่ายอากรแสตมป์ค่ะ

ภาษีศุลกากร

หากธุรกิจของเรา มีการนำเข้า หรือส่งออกสินค้าข้ามประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทั่วไป วัตถุดิบต่างๆ หรือสินค้าประเภทอื่น ๆ ต้องเสียภาษีศุลกากรค่ะ

ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ภาษีศุลกากร คือ ภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บจากการนำเข้า หรือส่งออกสินค้า ผ่านด่านศุลกากร ทั้งในรูปแบบของอากรขาเข้า อากรขาออก หรือภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม

การเก็บภาษีศุลกากร เป็นหนึ่งในวิธีที่รัฐใช้ในการควบคุมการนำเข้า และการส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งยังเป็นกลไกในการปกป้องผู้ผลิตในประเทศ จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ด้วยการนำเข้าสินค้าที่มีราคาถูก โดยการตั้งอัตราภาษีที่สูง สำหรับสินค้าที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศค่ะ

ภาษีป้าย

การทำธุรกิจในปัจจุบันนี้ สิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย ก็คือการทำสื่อโฆษณา เพื่อทำให้ลูกค้าเห็นสินค้า หรือบริการของเรามากขึ้น ในที่นี้จะรวมถึงการทำป้ายโฆษณา ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น บนอาคาร หรือริมถนน เป็นต้น และหากว่ามีการทำป้ายเพื่อทำการโฆษณา ก็จะต้องเสียภาษีประเภทนี้

โดยสรุปแล้ว ภาษีป้าย คือ ภาษีที่จะเก็บจากการแสดงป้ายโฆษณา ชื่อ สินค้า เครื่องหมายการค้า หรือกิจการของทั้งบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งจะต้องนำส่งให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล หรือองค์การบริการส่วนตำบล (อ.บ.ต.) ค่ะ

ภาษีสรรพสามิต

หากธุรกิจของเรา มีการผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายสินค้า หรือบริการ ที่เข้าข่ายสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า สุรา รถยนต์ น้ำหอม หรือ เครื่องประดับ จะต้องเสียภาษีสรรพสามิตค่ะ

ภาษีสรรพสามิต คือ ภาษีการขายที่เรียกเก็บจากสินค้า และบริการบางประเภทโดยเฉพาะ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ผู้บริโภคต้องจ่ายภาษีสูงกว่าปกติ โดยสินค้าดังกล่าว ต้องเป็นสินค้าที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ หรือศีลธรรมอันดี หรือสินค้าที่เข้าข่ายสินค้าฟุ่มเฟือย รวมสินค้าที่ได้รับผลประโยชน์พิเศษจากทางรัฐค่ะ

ภาษีโรงเรือน และที่ดิน

ในบางธุรกิจที่จะต้องมีการจัดเก็บสินค้า หรือต้องมีการสต็อกสินค้าเอาไว้ในโรงเรือน หรือโกดัง หรือมีการเปิดหน้าร้านเพื่อขายสินค้า หรือสำนักงานเพื่อให้บริการ จะต้องเสียภาษีโีรงเรือน และที่ดินค่ะ

ภาษีโรงเรือน และที่ดิน คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากอสังหารมทรัพย์ที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในการเปิดกิจการ การให้เช่า หรือการให้บริการหอพัก โรงเรียน โรงพยาบาล ธนาคาร หรือสถานที่ประกอบการต่าง ๆ โดยเจ้าของทรัพย์สิน ต้องเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือน และที่ดิน ยกเว้นบ้านที่อยู่อาศัยเอง และทรัพย์สินที่ถูกต้องตามกฎหมายค่ะ

ในส่วนนี้สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความเรื่อง ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คืออะไร ? เจ้าของกิจการต้องรู้ !

เริ่มธุรกิจ ด้วยการจดทะเบียนนิติบุคคลได้ทันทีที่ ชอบการบัญชี

การดำเนินธุรกิจให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เริ่มต้นได้ด้วยการจดทะเบียนนิติบุคคล เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับกิจการแล้ว ทั้งยังเป็นการขยายโอกาส และเป็นการรองรับการเติบโตของธุรกิจ และหากว่าคุณกำลังมองหาผู้ช่วยในเรื่องนี้ ชอบบัญชี ยินดีให้บริการค่ะ

บริการของเรา

• จดทะเบียนบริษัท
• จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด
• จดทะเบียนพาณิชย์
• บริการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนิติบุคคล เช่น เปลี่ยนแปลงที่อยู่ ทุนจดทะเบียน หรือเปลี่ยนแปลงกรรมการ
• บริการยื่นภาษีต่าง ๆ และจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
• บริการบัญชีรายเดือน และภาษีสำหรับนิติบุคคล

ทำไมต้องจดทะเบียนนิติบุคคลที่ ชอบการบัญชี

• มีทีมงานมืออาชีพ พร้อมให้คำแนะนำ และตอบทุกคำถามเกี่ยวกับบัญชี และภาษี
• ให้บริการรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลาจัดการเอกสารด้วยตัวเอง เราพร้อมดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่เตรียมเอกสารไปจนถึงขั้นตอนการส่งมอบใบจดทะเบียน
• ราคาที่เหมาะสม ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นแอบแฝง
• ให้คำปรึกษาฟรี ก่อนเริ่มบริการ

อย่าปล่อยให้เรื่องการจดทะเบียนนิติบุคคล กลายเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ ให้ชอบการบัญชี ช่วยจัดการในส่วนนี้ เพื่อให้คุณโฟกัสกับการทำธุรกิจได้อย่างเต็มที่ค่ะ