ทุกวันนี้เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องภาษีที่หลายคนมักจะมองข้ามไป คิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วถ้าเรารู้จักวางแผนภาษีให้ดี มันจะช่วยให้เรามีเงินเหลือเยอะขึ้นกว่าที่คิด
ยิ่งตอนนี้ทุกอย่างแพงขึ้น เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี การรู้จักวางแผนภาษีจะช่วยให้เราประหยัดเงินได้เยอะ แทนที่จะต้องจ่ายภาษีไปหมด เราก็เอาเงินส่วนนั้นไปทำอย่างอื่นได้ เช่น เก็บออม ลงทุน หรือแม้แต่ซื้อของที่อยากได้ แต่ต้องเป็นการวางแผนที่ถูกต้องตามกฎหมายนะ ไม่ใช่การหนีภาษี
ทำไมต้องวางแผนภาษี ?
หลายคนอาจคิดว่าการวางแผนภาษีเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และเข้าใจยาก หรือเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนมีรายได้สูงเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ทุกคนที่มีรายได้และต้องเสียภาษีสามารถได้รับประโยชน์จากการวางแผนภาษีได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัท ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือเจ้าของธุรกิจ
การวางแผนภาษีที่ดี หมายถึง การใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ ที่รัฐบาลกำหนดไว้อย่างถูกต้องและเต็มที่ เช่น การลดหย่อนภาษี การยกเว้นภาษี และการเครดิตภาษี ซึ่งจะช่วยลดจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายได้อย่างถูกกฎหมาย นอกจากนี้ การวางแผนภาษียังช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาจากการยื่นแบบภาษีที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียค่าปรับหรือถูกดำเนินคดีได้
สิ่งที่ควรรู้ก่อนวางแผนภาษี
ก่อนที่จะเริ่มต้นวางแผนภาษี มีข้อมูลหลายอย่างที่ควรจะทำความเข้าใจก่อน คือ
1. โครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา : ในประเทศไทย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นแบบอัตราก้าวหน้า ซึ่งหมายความว่ายิ่งคุณมีรายได้สูง อัตราภาษีที่คุณต้องจ่ายก็จะยิ่งสูงขึ้น ปัจจุบันมีขั้นภาษีตั้งแต่ 0% ไปจนถึง 35%
2. ประเภทของเงินได้ : กฎหมายภาษีแบ่งเงินได้ออกเป็น 8 ประเภท (เงินได้พึงประเมิน) ซึ่งแต่ละประเภทมีวิธีคำนวณและข้อกำหนดการหักค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน
3. ค่าลดหย่อนภาษี : รัฐบาลมีการให้สิทธิลดหย่อนภาษีหลายรูปแบบ เช่น การลดหย่อนส่วนตัว คู่สมรส บุตร ประกันชีวิต กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ SSF RMF เงินบริจาค และอื่น ๆ
4. ปฏิทินภาษี : ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการยื่นแบบและชำระภาษี เพื่อไม่ให้พลาดกำหนดและต้องเสียเงินเพิ่ม
5. การยื่นแบบแสดงรายการภาษี : รู้จักแบบฟอร์มต่างๆ ที่ต้องใช้ในการยื่นภาษี เช่น ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.91 หรือ ภ.ง.ด.94 (ถ้าต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับ ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.91 และ ภ.ง.ด.94 สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ เคลียร์ให้ชัด! ความแตกต่างระหว่างภ.ง.ด. 90 และภ.ง.ด. 91 และ ภ.ง.ด. 94 คืออะไร จำเป็นต้องยื่นไหม ? )
6. วิธีการคำนวณภาษี : เข้าใจวิธีการคำนวณภาษีที่ถูกต้อง เริ่มจากการนำเงินได้พึงประเมินมาหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่างๆ เพื่อให้ได้เงินได้สุทธิ แล้วจึงนำไปคำนวณตามขั้นภาษี
ความแตกต่างของการวางแผนภาษี กับไม่วางแผนภาษี
การวางแผนภาษีและการไม่วางแผนภาษีมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างล่ะ ?
การวางแผนภาษี
ประหยัดเงิน : คุณจะได้ใช้ประโยชน์จากสิทธิลดหย่อนต่างๆ อย่างเต็มที่ ทำให้จ่ายภาษีน้อยลงอย่างถูกกฎหมาย
การจัดการกระแสเงินสด : ช่วยให้คุณวางแผนการใช้จ่ายและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดความเสี่ยง : ลดโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดในการยื่นภาษี
เพิ่มโอกาสในการลงทุน : เงินที่ประหยัดได้จากการวางแผนภาษีสามารถนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในอนาคต
ความมั่นใจ : คุณจะรู้สึกมั่นใจว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องและใช้สิทธิประโยชน์ที่พึงมีอย่างครบถ้วน
การไม่วางแผนภาษี
จ่ายภาษีมากเกินความจำเป็น : คุณอาจพลาดโอกาสในการใช้สิทธิลดหย่อนต่างๆ ทำให้ต้องจ่ายภาษีมากกว่าที่ควร
ความเสี่ยงต่อการผิดพลาด : มีโอกาสสูงที่จะยื่นแบบผิดพลาดหรือไม่ครบถ้วน
ขาดการวางแผนการเงิน : ไม่ได้นำปัจจัยด้านภาษีมาประกอบการตัดสินใจทางการเงิน
พลาดโอกาส : ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมาตรการส่งเสริมการลงทุนหรือการออมที่รัฐสนับสนุนผ่านระบบภาษี
เทคนิควางแผนภาษีสำหรับมนุษย์เงินเดือน
สำหรับผู้มีรายได้ประจำหรือมนุษย์เงินเดือน มีเทคนิคการวางแผนภาษีที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่ายๆ ตามนี้เลย
1. ใช้สิทธิลดหย่อนให้ครบ : ตรวจสอบและใช้สิทธิลดหย่อนที่คุณมีสิทธิได้รับให้ครบถ้วน เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าลดหย่อนคู่สมรส ค่าลดหย่อนบุตร ค่าการศึกษาบุตร และค่าดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย
2. ลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณ : การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หรือกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณ แต่ยังสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
3. ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ : เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาท และประกันสุขภาพอีกไม่เกิน 25,000 บาท ช่วยให้คุณมีความคุ้มครองและประหยัดภาษีไปพร้อมกัน
4. บริจาคเพื่อลดหย่อนภาษี : การบริจาคให้กับองค์กรที่มีสิทธิรับบริจาคสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด ทำให้คุณได้ทำบุญและได้ประโยชน์ทางภาษีด้วย
5. วางแผนการซื้อสินทรัพย์ : หากมีแผนที่จะซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม ควรพิจารณาประโยชน์ทางภาษีที่จะได้รับจากดอกเบี้ยเงินกู้
6. ตรวจสอบค่าลดหย่อนและสิทธิประโยชน์ใหม่ : ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการภาษีใหม่ๆ ที่รัฐบาลประกาศใช้ เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการช้อปปิ้งหรือการท่องเที่ยว
เครื่องมือและแหล่งข้อมูล ที่ช่วยให้วางแผนภาษีง่ายขึ้น
ปัจจุบันมีเครื่องมือและแหล่งข้อมูลมากมายที่ช่วยให้การวางแผนภาษีเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
1. เว็บไซต์กรมสรรพากร : เป็นแหล่งข้อมูลหลักที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบ ค่าลดหย่อน และการยื่นแบบแสดงรายการภาษี
2. แอปพลิเคชัน RD Smart Tax : แอปพลิเคชันของกรมสรรพากรที่ช่วยให้การยื่นภาษีและการคำนวณภาษีเป็นเรื่องง่าย
3. เครื่องมือคำนวณภาษีออนไลน์ : มีเว็บไซต์และแอปพลิเคชันหลายแห่งที่ให้บริการเครื่องมือคำนวณภาษีฟรี ช่วยให้คุณประมาณการภาษีที่ต้องจ่ายได้ล่วงหน้า
4. โปรแกรมบัญชีส่วนบุคคล : ช่วยในการติดตามรายรับ รายจ่าย และบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาษี
5. บริการให้คำปรึกษาด้านภาษี : หากมีข้อสงสัยหรือมีรายได้ที่ซับซ้อน อาจพิจารณาปรึกษากับนักวางแผนภาษีหรือนักบัญชี
6. สัมมนาและการอบรมออนไลน์ : มีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับภาษีอยู่เสมอ ซึ่งเป็นโอกาสดีในการเพิ่มพูนความรู้
7. กลุ่มและฟอรั่มออนไลน์ : สามารถเข้าร่วมกลุ่มหรือฟอรั่มที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์เกี่ยวกับการวางแผนภาษี
ผลเสียของการไม่วางแผนภาษี
การละเลยการวางแผนภาษีอาจทำให้เกิดผลเสียเยอะกว่าผลดีซะอีกด้วย
1. การเสียเงินโดยไม่จำเป็น : คุณอาจต้องจ่ายภาษีมากกว่าที่ควรหากไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนที่พึงมี
2. เสียค่าปรับและเงินเพิ่ม : การยื่นแบบล่าช้าหรือไม่ถูกต้องอาจนำมาซึ่งค่าปรับและเงินเพิ่ม ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
3. การตรวจสอบจากสรรพากร : การยื่นแบบที่ไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่ทางการมีอาจนำไปสู่การถูกตรวจสอบเพิ่มเติม
4. ความเครียดและความวิตกกังวล : การไม่แน่ใจว่าได้ดำเนินการถูกต้องหรือไม่อาจส่งผลต่อสุขภาพจิต
5. พลาดโอกาสในการเพิ่มความมั่งคั่ง : การไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อการลงทุนหรือการออม ทำให้พลาดโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
การวางแผนภาษีไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถของคนทั่วไป แต่เป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น การวางแผนภาษีที่ดีต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับระบบภาษี รู้จักใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่รัฐบาลมอบให้ และมีวินัยในการจัดการเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ไม่ว่าคุณจะมีรายได้มากหรือน้อย การวางแผนภาษีจะช่วยให้คุณไม่ต้องจ่ายภาษีมากเกินความจำเป็น และสามารถนำเงินที่ประหยัดได้ไปใช้ในการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตในอนาคต ดังนั้น การเริ่มต้นวางแผนภาษีตั้งแต่วันนี้จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับทุกคน
การวางแผนภาษีไม่ใช่การหลีกเลี่ยงภาษี แต่เป็นการใช้สิทธิที่มีตามกฎหมายอย่างชาญฉลาด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวเองและครอบครัว พร้อมกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศผ่านการเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย