เมื่อเข้าสู่ช่วงของการยื่นภาษี หลายๆ คนอาจจะทราบอยู่แล้วว่า รายได้ประเภทใดบ้าง ที่ต้องนำมาคำนวณภาษี แต่ก็มีหลายคนที่สงสัยว่า รายได้ที่เราได้รับทุกอย่าง ต้องนำมาคำนวณเพื่อยื่นภาษี และเสียภาษีทุกอย่างหรือไม่ ในความจริงนั้น กฎหมายได้กำหนดให้มีเงินได้บางประเภทที่ได้รับการยกเว้นภาษี เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระภาษีให้กับประชาชน
ในบทความนี้ ชอบการบัญชี จะพาไปสำรวจว่ามีเงินได้ประเภทใดบ้างที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในปี 2567 ซึ่งสามารถยื่นแบบแสดงภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึง 31 มีนาคม 2568
เงินได้บุคคลธรรมดาที่ได้รับการยกเว้นภาษี ตามมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร และการยกเว้นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 มีระบุเอาไว้มากกว่าร้อยรายการ แต่เงินได้ที่สำคัญและใกล้ตัวเราที่ได้รับการยกเว้นภาษี มีอยู่ดังนี้
1. ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าพาหนะ
1. ค่าเบี้ยเลี้ยง หรือค่าพาหนะ ซึ่งลูกจ้าง หรือผู้รับหน้าที่ หรือตำแหน่งงาน หรือผู้รับทำงานให้ได้จ่ายไปโดยสุจริต ตามความจำเป็นเฉพาะในการที่ต้องปฏิบัติการตามหน้าที่ของตนและได้จ่ายไปทั้งหมดในการนั้น
2. ค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ตามอัตราที่รัฐบาลกำหนดไว้โดยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยอัตรา ค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทาง
3. เงินค่าเดินทาง ซึ่งนายจ้างจ่ายให้ลูกจ้างเฉพาะส่วนที่ลูกจ้างได้จ่ายทั้งหมดโดยจำเป็น เพื่อการเดินทางจากต่างถิ่นในการเข้ารับงานเป็นครั้งแรก หรือในการกลับถิ่นเดิม เมื่อการจ้างได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ข้อยกเว้นนี้ มิให้รวมถึงเงินค่าเดินทางที่ลูกจ้างได้รับในการกลับถิ่นเดิม และในการเข้ารับงานของนายจ้างเดิมภายใน 365 วัน นับแต่วันที่การจ้างครั้งก่อนได้สิ้นสุดลง
2. เงินได้จากสัญญา ก่อนประกาศใช้พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ พ.ศ. 2475
ในกรณีที่นายจ้างและลูกจ้างได้ทำสัญญากันโดยสุจริต ก่อนใช้พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ พุทธศักราช 2475 มีข้อกำหนดว่า นายจ้างจะชำระเงินบำเหน็จ เงินค่าธรรมเนียม เงินค่านายหน้า หรือเงินโบนัส ให้แก่ลูกจ้างเป็นจำนวนเดียวเมื่อการงานที่จ้างได้สิ้นสุดลงแล้ว แม้เงินเต็มจำนวนนั้นจะได้ชำระภายหลังที่ใช้ บทบัญญัติในส่วนนี้ก็ดี เงินบำเหน็จ เงินค่าธรรมเนียม เงินค่านายหน้า หรือเงินโบนัสส่วนที่เป็นค่าจ้างแรงงาน อันได้ทำในเวลาก่อนใช้พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ พุทธศักราช 2475 นั้น ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
3. เงินเพิ่มพิเศษ และค่าเช่าบ้านสำหรับข้าราชการต่างประเทศ
เงินเพิ่มพิเศษประจำตำแหน่ง และเงินค่าเช่าบ้าน หรือบ้านที่ให้อยู่โดยไม่ต้องเสียค่าเช่า สำหรับข้าราชการสถานทูต หรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ
4. ดอกเบี้ย และรางวัล
1. ดอกเบี้ยดังต่อไปนี้
(ก) ดอกเบี้ยสลากออมสิน หรือดอกเบี้ยเงินฝากออมสินของรัฐบาลเฉพาะประเภทฝากเผื่อเรียก
(ข) ดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ที่ได้รับจากสหกรณ์
(ค) ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถาม ประเภทออมทรัพย์เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ ได้รับดอกเบี้ยดังกล่าว ในจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดปีภาษีนั้น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
2. รางวัลเพื่อการศึกษา หรือค้นคว้าในวิทยาการ รางวัลสลากกินแบ่ง หรือสลากออมสินของรัฐบาล รางวัลที่ทางราชการจ่ายให้ในการประกวด หรือแข่งขัน ซึ่งผู้รับมิได้มีอาชีพในการประกวดหรือแข่งขัน หรือสินบนรางวัลที่ทางราชการจ่ายให้ เพื่อประโยชน์ในการปราบปรามการกระทำความผิด
5. เงินได้จากการขาย หรือโอนทรัพย์สิน
1. การขายสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดก หรือสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้า หรือหากำไร แต่ไม่รวมถึงเรือกำปั่น เรือที่มีระวางตั้งแต่ 6 ตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ที่มีระวางตั้งแต่ 5 ตันขึ้นไป หรือแพ
2. เงินได้ที่ได้รับจากการรับมรดก
3. เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่ บุตรชอบด้วยกฎหมาย (ไม่รวมถึงบุตรบุญธรรม) เฉพาะเงินได้จากการโอนให้แก่บุตรชอบด้วยกฎหมายนั้น ในส่วนที่ไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อบุตรหนึ่งคน ตลอดปีภาษีนั้น (พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 43) พ.ศ.2559 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 เป็นต้นไป)
6. เงินได้จากการอุปการะ หรือให้โดยเสน่หา
1. เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะ หรือจากการให้โดยเสน่หาจากบุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส เฉพาะเงินได้ในส่วนที่ไม่เกิน 20 ล้านบาท ตลอดปีภาษีนั้น
2. เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา หรือจากการให้โดยเสน่หา เนื่องในพิธี หรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี ทั้งนี้ จากบุคคลซึ่งมิใช่บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรสเฉพาะเงินได้ ในส่วนที่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ตลอดปีภาษีนั้น
7. เงินประโยชน์ทดแทน และสินไหมทดแทน
1. เงินประโยชน์ทดแทนที่ผู้ประกันตนได้รับจากกองทุนประกันสังคม ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม
2. ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด เงินที่ได้จากการประกันภัย หรือการฌาปนกิจสงเคราะห์
8. เงินได้อื่นๆ
1. เบี้ยประชุมกรรมาธิการ หรือกรรมการหรือค่าสอน ค่าสอบที่ทางราชการ หรือสถานศึกษาของทางราชการจ่ายให้
2. เงินได้ของชาวนาที่ได้จากการขายข้าวอันเกิดจากกสิกรรมที่ตน หรือครอบครัวได้ทำเอง
3. เงินได้ที่ได้รับจากกองมรดก ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ไว้ในนามกองมรดกแล้ว
4. เงินได้ตามที่จะได้กำหนดยกเว้นโดยกฎกระทรวง (พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 ใช้บังคับสำหรับเงินได้ปีภาษี 2496 เป็นต้นไป) (กฎกระทรวงฯ ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ฉบับที่ 201 (พ.ศ. 2539) ฉบับที่ 219 (พ.ศ. 2542) ฉบับที่ 230 (พ.ศ. 2544) ฉบับที่ 241 (พ.ศ. 2546) ฉบับที่ 252 (พ.ศ. 2548) ฉบับที่ 254 (พ.ศ. 2548) ฉบับที่ 385 (พ.ศ. 2565) ฉบับที่ 386 (พ.ศ. 2565) ฉบับที่ 386 (พ.ศ. 2565) ฉบับที่ 387 (พ.ศ. 2566) ฉบับที่ 388 (พ.ศ. 2566) ฉบับที่ 390 (พ.ศ. 2566) ฉบับที่ 391 (พ.ศ. 2566) ฉบับที่ 392 (พ.ศ. 2567) ฉบับที่ 393 (พ.ศ. 2567)
5. รางวัลสลากบำรุงกาชาดไทย เงินได้จากการขาย หรือส่วนลดจากการซื้อสลากบำรุงกาชาดไทย
6. ดอกเบี้ยที่ได้รับจากการคืนเงินภาษีอากรตามประมวล

ทำไมถึงมีการยกเว้นภาษีเงินได้ ?
การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เกิดขึ้นจากเหตุผล และหลักการหลายประการ ดังนี้
1. สนับสนุนความเป็นธรรมในระบบภาษี
การยกเว้นภาษี เป็นการลดภาระให้กับผู้ที่มีรายได้ต่ำ หรือรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นการหลีกเลี่ยงการจัดเก็บภาษี ในกรณีที่รายได้ที่ได้รับ ไม่ได้เกิดจากการแสวงหากำไร หรือไม่ได้เป็นรายได้ในเชิงพาณิชย์ เช่น การขายทรัพย์สินส่วนตัว หรือการขายผลผลิตที่ทำเองในครัวเรือน
2. สนับสนุนสวัสดิการ และคุณภาพชีวิตของประชาชน
การยกเว้นภาษี จากการได้รับสวัสดิการ ช่วยให้ลูกจ้างสามารถจัดการค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทั้งยังเป็นการยกเว้นเพื่อช่วยบรรเทาภาระในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เช่น การเจ็บป่วย หรือการสูญเสียรายได้แบบกระทันหัน
3. กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการออม
รายได้ที่ได้รับจากการดอกเบี้ยเงินฝากในจำนวนที่ไม่สูง ช่วยสนับสนุนให้ประชาชนออมเงิน และเพิ่มเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ นอกจากนั้นแล้ว รายได้จากสลากออมสิน หรือเงินบางประเภท ที่ได้รับการยกเว้นภาษี มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
4. สนับสนุนความสัมพันธ์ในครอบครัว และสังคม
เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะ หรือการให้โดยเสน่หา ได้รับการยกเว้นภาษีเพื่อสนับสนุนความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว นอกจากนั้นแล้ว การยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ที่ได้รับในโอกาสพิเศษ เช่น รายได้จากการแต่งงาน การจัดงานสำคัญ หรือพิธีกรรมตามประเพณี เป็นการสะท้อนให้เห็นความสำคัญของวัฒนธรรม และค่านิยมในสังคม
5. ลดความซ้ำซ้อน และส่งเสริมความคล่องตัวของระบบภาษี
การยกเว้นภาษีช่วยลดความซ้ำซ้อนในการจัดเก็บ ทำให้ระบบภาษีมีความเรียบง่าย และลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นสำหรับผู้เสียภาษี เช่น ดอกเบี้ยสลากออมสิน ที่รับได้จากการเก็บจากรายได้ต้นทางแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บจากผู้ถือสลาก
6. สนับสนุนการบริจาค และการทำกิจกรรมเพื่อสังคม
การยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ที่เกิดจากการบริจาคเพื่อการกุศล ศาสนา หรือการศึกษา ซึ่งเป็นการจูงใจให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม และเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่มีผลกระทบในเชิงบวก เช่น การแข่งขันในระดับประเทศที่ได้รับรางวัล และได้รับการยกเว้นภาษี
ก่อนที่จะทำการยื่นภาษี ควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายการลดหย่อน สิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงการยกเว้นรายได้บางประการ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
หากมีคำถาม หรือมีข้อสงสัยในเรื่องภาษี ให้ ชอบการบัญชี เป็นที่ปรึกษาของคุณ เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำในเรื่องบัญชี และภาษี เพื่อให้คุณวางแผนภาษี และยื่นภาษีได้อย่างถูกต้องค่ะ!