ทำไมต้องยื่นภาษี ยื่นแล้วได้อะไร ?

ทำไมต้องยื่นภาษี ยื่นแล้วได้อะไร ?

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงานได้ไม่นาน ก็มีหลายสิ่งที่ต้องที่ต้องทำความใจ และปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพแวดล้อมของที่ทำงาน หรือความคุ้นชินในการทำงาน นอกจากนั้นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ ก็คือเรื่อง “ภาษี” และมักจะมีคำถามตามมาว่า ทำไมถึงต้องยื่นภาษี ? ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ ? หรือไม่ยื่นภาษีได้ไหม ?

ในบทความนี้ ชอบการบัญชี จะพาไปค้นหาคำตอบ และหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องยื่นภาษี แม้ว่าจะไม่ได้เสียภาษี รวมถึงประโยชน์ของการยื่นภาษีด้วยค่ะ

ทำไมต้องยื่นภาษี ?

ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่า การยื่นภาษี คือหน้าที่ของผู้ที่มีรายได้ เมื่อเริ่มทำงานแล้วมีรายได้ สิ่งที่จะติดตัวเราแบบอัตโนมัติ คือหน้าที่ที่จะต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร เพื่อให้บุคคลที่มีเงินได้ ได้ยื่นแบบแสดงรายได้ ที่ได้รับในปีนั้นๆ ค่ะ

ทำงานกี่เดือน ถึงต้องยื่นภาษี ?

การยื่นภาษี เป็นหน้าที่ของทุกคนที่มีรายได้ ที่จะต้องทำการยื่นให้กับกรมสรรพากรแบบตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเริ่มทำงานได้กี่เดือนก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น

“คุณชอบ เริ่มทำงานในช่วงเดือนตุลาคม 2567 จะต้องรวมรายได้ที่ได้รับทั้งหมดตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 จนถึงเดือนธันวาคม 2567 เพื่อเตรียมยื่นข้อมูลให้กับกรมสรรพากร ในปีถัดไป (2568)”

แล้วเงินเดือนเท่าไหร่ ถึงต้องยื่นภาษี ?

ในเมื่อทุกคนที่มีรายได้ ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แล้วต้องมีรายได้เท่าไหร่ ถึงจะต้องยื่นภาษีกันนะ ในส่วนนี้ กรมกสรรพากรกำหนดว่า “บุคคลทุกคนเมื่อมีเงินได้ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด มีหน้าที่ยื่นภาษี และเสียภาษีเงินได้ทุกคน”

แม้ว่ารายได้ที่ได้รับจะไม่ถึง 150,000 บาทต่อปี แต่ก็ต้องยื่นภาษี เพราะการที่ได้รับ “การยกเว้นภาษี” ไม่ได้หมายความว่าได้รับการยกเว้น “การยื่นภาษี

หากมีเงินเดือน หรือได้รับรายได้จากช่องทางอื่นมากกว่า 10,000 บาทต่อเดือน (คิดเป็น 120,000 บาทต่อปี) ต้องยื่นภาษีทุกคน

แต่สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 120,000 บาทต่อปี ไม่ต้องยื่นแบบภาษี

ยื่นภาษี แล้วได้อะไร ?

อาจมีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ในเมื่อรายได้ถึง 150,000 บาทต่อปี ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ต้องยื่นภาษี แล้วจะยื่นภาษีไปทำไม ทั้งยังมีความคิดในด้านลบต่อการยื่นภาษี แต่รู้หรือไม่ว่า การยื่นภาษี ทำใ่ห้เราได้รับประโยชน์หลายๆ อย่าง ในแบบที่ไม่เคยรู้มาก่อน ดังต่อไปนี้

1. การยื่นภาษีมีผลต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้ในการกู้ยืม หรือขอสินเชื่อ  โดยหลักฐานที่สถาบันการเงินมักจะขอดู คือ “แบบแสดงรายการภาษี” ฉะนั้นแล้ว ถ้าเรายื่นภาษีอย่างต่อเนื่อง และถูกต้อง จะทำให้มีเครดิต และมีโอกาสได้รับสินเชื่อนั้นๆ มากขึ้น
2. สามารถขอคืนภาษี หัก ณ ที่จ่ายได้ หากว่าไม่ยื่นภาษี ก็หมายความว่า หมดโอกาสที่จะขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่ถูกหักเอาไว้ในระหว่างปี ฉะนั้นแล้ว การที่ไม่ยื่นภาษี ก็เท่ากับว่าปิดโอกาสที่จะขอคืนภาษีไปโดยปริยาย
3. สนับสนุนการพัฒนาประเทศ ในกรณีที่มีเงินได้สุทธิถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี เงินภาษีที่เราชำระนั้น จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในด้านสาธารณูปโภค การศึกษา หรือสาธารณสุข เป็นต้น

จะเกิดอะไรขึ้น หากไม่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ?

การที่ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี มีโทษดังต่อไปนี้
1. หากไม่ยื่นแบบภาษี ภายในช่วงเวลาที่กำหนด ต้องจ่ายค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามมาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร แต่สามารถขอลดค่าปรับได้
2. หากไม่ชำระภาษี ภายในช่วงเวลาที่กำหนด จะต้องจ่ายเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน) ของจำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระ นับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดเวลาที่ต้องยื่นรายการ จนถึงวันที่ต้องชำระภาษี
3. หากมีเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียก แล้วพบว่าไม่ได้ยื่นภาษี หรือยื่นภาษีไว้ แต่ไม่ได้ชำระ หรือชำระต่ำไป นอกจากจะต้องชำระเพิ่มแล้ว ต้องเสียค่าปรับเพิ่ม 1 เท่า หรือ 2 เท่า ของภาษีที่ต้องจ่ายแล้วแต่กรณี เงินเบี้ยปรับดังกล่าว อาจลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ ตามระเบียบอธิบดีที่กำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี
4. หากเจตนาละเลยไม่ยื่นภาษี เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
5. หากจงใจ แจ้งความเท็จ หรือแสดงหลักฐานเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยง หรือพยายามเลี่ยงการเสียภาษี มีโทษจำคุกตั้งแค่ 3 เดือน ถึง 7 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท
อ้างอิงจากเว็บไซต์กรมสรรพากร

การยื่นภาษีเงินได้ แม้ว่ารายได้จะยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จากการที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตอย่างแท้จริง เพราะคงไม่มีใครอยากมีรายได้น้อยกว่า 120,000 บาทต่อปีไปตลอด และในอนาคต ทุกคนก็ต้องมีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว

ทั้งนี้ การยื่นภาษีในช่วงแรกก็ไม่ได้มีขั้นตอนที่ซับซ้อน เพียงกรอกข้อมูลแค่ไม่กี่อย่าง แต่เมื่อเรามีรายได้มากขึ้น แล้วต้องกรอกข้อมูลเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้เรามีความเข้าใจในขั้นตอนต่างๆ มากขึ้นตามไปด้วย เพราะเคยยื่นภาษีเป็นประจำอยู่แล้วนั่นเองค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : สำนักงานบัญชีคุณภาพ ชอบการบัญชี
LINE : @chobaccounting
เบอร์โทร : 094-159-4561
อีเมล์ : chobcorp.acc@chobaccountingonline.co.th

Facebook
LinkedIn
X

ผู้เขียน

พัทธนันท์ วัชรโชติธาดาพงศ์

น้ำ - พัทธนันท์ วัชรโชติธาดาพงษ์

ผู้บริหาร และนักบัญชี ที่เชี่ยวชาญด้านการทำบัญชี การวางระบบบัญชี การยื่นภาษี และการวิเคราะห์งบการเงิน เชื่อมั่นว่าทุกธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงด้วยการจัดการบัญชีและภาษีที่ถูกต้อง

Scroll to Top