เงินได้จากต่างประเทศ กับภาระภาษีที่คนไทยต้องรู้ ในปี 2025

รายได้จากต่างระเทศ กับภาษีที่คนไทยต้องรับรู้

ท่ามกลางกระแสการทำงานกับต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น การทำความเข้าใจเรื่องภาษีเงินได้จากต่างประเทศ กลายเป็นเรื่องสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับคนไทย ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ที่รับงานจากต่างประเทศ พนักงานของบริษัทต่างชาติ หรือผู้ที่มีรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศ

บทความนี้ ชอบการบัญชี จะพาไปทำความรู้จักกับหลักการจัดเก็บภาษีเงินได้จากต่างประเทศ วิธีการคำนวณ ข้อยกเว้น และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ควรรู้ เพื่อให้สามารถวางแผนภาษีได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจากการเสียภาษีซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

ในยุคที่เทคโนโลยีเชื่อมโยงโลกเข้าด้วยกัน โอกาสในการสร้างรายได้จากต่างประเทศก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ การเข้าใจกฎเกณฑ์ และสิทธิประโยชน์ทางภาษี จึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้สามารถบริหารจัดการรายได้ได้อย่างชาญฉลาด และได้รับประโยชน์อีกมากมายจากรายได้ที่จะได้รับในอนาคต

ภาษีเงินได้ต่างประเทศ คืออะไร ?

ภาษีเงินได้จากต่างประเทศ คือ ภาษีที่จัดเก็บจากรายได้ของผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ที่ได้รับจากแหล่งเงินได้ที่มาจากต่างประเทศ เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าลิขสิทธิ์ กำไรจากการลงทุน หรือรายได้อื่น ๆ

ความแตกต่างระหว่าง ภาษีเงินได้ในประเทศ และต่างประเทศ

1. แหล่งที่มาของรายได้ ภาษีเงินได้ในประเทศจัดเก็บจากรายได้ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ขณะที่ภาษีเงินได้จากต่างประเทศเกี่ยวข้องกับรายได้ที่เกิดขึ้นนอกประเทศไทย
2. การจัดเก็บ และการรายงาน รายได้ในประเทศมักถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายโดยอัตโนมัติ แต่รายได้จากต่างประเทศผู้มีรายได้ต้องดำเนินการยื่นภาษีเอง และมีข้อกำหนดในการรายงานที่ซับซ้อนกว่า
3. อัตราภาษี และข้อยกเว้น แต่ละประเทศมีอัตราภาษีและเงื่อนไขข้อยกเว้นที่แตกต่างกัน

ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้จากต่างประเทศ

ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้จากต่างประเทศ มีอยู่ดังนี้

  • ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และมีรายได้จากต่างประเทศ
  • ฟรีแลนซ์ที่รับงานจากลูกค้าต่างประเทศ
  • พนักงานบริษัทต่างชาติที่ได้รับเงินเดือนจากต่างประเทศ
  • นักลงทุนที่มีรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศ
  • ผู้ที่มีทรัพย์สินหรือธุรกิจในต่างประเทศ ฯลฯ

หลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ในการเสียภาษีเงินได้จากต่างประเทศ

ก่อนที่จะทราบหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการเสียภาษีเงินได้จากต่างประเทศ ก็ะจะต้องรู้ก่อนว่ารายได้ประเภทใดบ้าง ที่ต้องเสียภาษีในประเทศ ซึ่งมีอยู่ดังนี้

  • เงินเดือน และค่าจ้าง
  • รายได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ
  • ดอกเบี้ย และเงินปันผล
    กำไรจากการขายหุ้น หรือหลักทรัพย์
  • ค่าลิขสิทธิ์ และค่าสิทธิบัตร
  • รายได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน

การนำรายได้จากต่างประเทศ เข้ามาในประเทศไทย และผลกระทบทางภาษี

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป กรมสรรพากรได้ออกกฎใหม่เกี่ยวกับการนำเงินจากต่างประเทศเข้ามาในไทย หากเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่อาศัยในประเทศไทย และมีรายได้จากต่างประเทศ ไม่ว่าจะนำเงินเข้ามาในปีที่ได้รับ หรือปีถัดไปก็ตาม จะต้องนำเงินนั้น มาคำนวณภาษีในปีที่นำเงินเข้ามา

ถ้าจะพูดง่ายๆ ให้เข้าใจก็คือ เมื่อนำเงินเข้ามาในประเทศ ให้ทำการนำรายได้มาคิดนวณ ในปีที่นำรายได้เข้ามานั่นเอง จากเดิมที่เคยให้เสียภาษีเฉพาะเงินที่นำเข้ามาในปีที่ได้รับเท่านั้น ซึ่งมีผลกับคนที่มีรายได้จากต่างประเทศทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน รายได้จากการทำงานอิสระ กำไรจากการลงทุน หรือรายได้อื่นๆ

เมื่อนำเงินเข้ามา สิ่งสำคัญคือต้องเก็บหลักฐานให้ครบ ทั้งวันที่โอนเงินเข้ามา เอกสารการโอนเงิน และที่มาของรายได้ นอกจากนี้ ต้องแปลงเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่นำเงินเข้ามาด้วย แต่ก็มีข้อยกเว้นบางกรณีที่ไม่ต้องเสียภาษี เช่น เงินได้ที่ได้รับการยกเว้น หรือเงินที่ได้เสียภาษีในต่างประเทศไปแล้ว ในอัตราที่สูงกว่าไทย

ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าต้องจัดการอย่างไร แนะนำให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่สรรพากร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจัดการรายได้จากต่างประเทศได้ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ต้องจ่ายภาษีเกินความจำเป็น

อัตราภาษี

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทยเป็นแบบก้าวหน้า ตั้งแต่ 5% ถึง 35% โดยคำนวณจากฐานรายได้สุทธิที่ได้รับจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยก็คือต้องนำเงินได้จากต่างประเทศ และในประเทศมารวมกัo แล้วจึงค่อยนำมาคำนวณภาษี

สนธิสัญญาภาษีซ้อน (DTA) มีผลอย่างไร ?

ก่อนอื่นต้องรู้จักกับ อนุสัญญาภาษีซ้อน หรือที่เรียกว่า Double Taxation Agreement (DTA) กันก่อนว่า อนุสัญญาภาษีซ้อน (DTA) คืออะไร ซึ่งก็คือข้อตกลงระหว่างสองประเทศที่มีวัตถุประสงค์เพื่อขจัด หรือบรรเทาปัญหาการเก็บภาษีซ้ำซ้อน โดยกำหนดสิทธิในการจัดเก็บภาษีระหว่างประเทศคู่สัญญา ส่งเสริมการค้า และการลงทุนระหว่างประเทศ และป้องกันการเลี่ยงภาษี

วิธีการใช้สิทธิประโยชน์จาก DTA เพื่อลดภาระภาษี

  • ตรวจสอบว่าประเทศที่มีรายได้มีสนธิสัญญากับประเทศไทยหรือไม่
  • ศึกษาข้อกำหนดเฉพาะสำหรับประเภทรายได้ของคุณ
  • จัดเตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น หนังสือรับรองการมีถิ่นที่อยู่
  • ยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ตามแบบฟอร์มที่กำหนด

ขั้นตอนการขอคืนภาษีจากต่างประเทศ

  1. รวบรวมหลักฐานการเสียภาษีในต่างประเทศ
  2. กรอกแบบฟอร์มขอคืนภาษีตามที่แต่ละประเทศกำหนด
  3. แนบเอกสารประกอบ เช่น หนังสือรับรองถิ่นที่อยู่ทางภาษี
  4. ติดตามสถานะการขอคืนภาษี

การวางแผนภาษีเงินได้จากต่างประเทศให้คุ้มค่า

ในส่วนของการวางแผนภาษีอย่างคุ้มค่า จำเป็นที่จะต้องศึกษาวิธีการลดหย่อนอย่างถูกต้อง รวมทั้งคำแนะนำสำหรับการลงทุน และผู้ที่มีรายได้หลายประเทศ

วิธีลดหย่อนภาษีอย่างถูกต้อง

  • ใช้สิทธิประโยชน์จากสนธิสัญญาภาษีซ้อนให้เต็มที่
  • วางแผนการนำเงินเข้าประเทศอย่างเหมาะสม
  • จัดเก็บเอกสารและหลักฐานการเสียภาษีไว้ให้ครบถ้วน
  • พิจารณาการลงทุนในกองทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนและผู้ที่มีรายได้หลายประเทศ

  • ศึกษากฎหมายภาษีของแต่ละประเทศที่มีรายได้
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีระหว่างประเทศ
  • วางแผนการจัดการรายได้ และการลงทุนล่วงหน้า
  • ติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายภาษีอย่างสม่ำเสมอ

การวางแผนภาษีเงินได้จากต่างประเทศให้คุ้มค่า

กรณีที่ 1 : ฟรีแลนซ์รับงานจากบริษัทในสิงคโปร์

  • รายได้ 1,000,000 บาทต่อปี
  • เสียภาษีในสิงคโปร์ 17%
  • สามารถนำภาษีที่เสียในสิงคโปร์มาเป็นเครดิตในไทยได้

กรณีที่ 2 : พนักงานบริษัทญี่ปุ่นที่ทำงานในไทย

  • เงินเดือนจากญี่ปุ่น 2,000,000 บาทต่อปี
  • ต้องเสียภาษีทั้งในญี่ปุ่นและไทย
  • ใช้สิทธิประโยชน์จาก DTA เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีซ้อน

การจัดการภาษีเงินได้ต่างประเทศเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ และต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียด เนื่องจากมีความซับซ้อนทั้งในแง่ของกฎหมายภาษีไทย กฎหมายภาษีของแต่ละประเทศที่มีรายได้ และสนธิสัญญาภาษีซ้อน การวางแผนภาษีที่ดีจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่าย และหลีกเลี่ยงปัญหาทางภาษีในอนาคต สิ่งสำคัญคือต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย และข้อกำหนดต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การจัดการภาษีเป็นไปอย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ

สำหรับผู้ที่มีรายได้จากต่างประเทศ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี หรือเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรโดยตรง ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยให้คุณเข้าใจสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่พึงได้รับ และสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางภาษีได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ การเก็บรวบรวมเอกสาร และหลักฐานทางการเงินอย่างเป็นระบบจะช่วยให้การยื่นแบบแสดงรายการ และการขอคืนภาษีเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : สำนักงานบัญชีคุณภาพ ชอบการบัญชี
LINE : @chobaccounting
เบอร์โทร : 094-159-4561
อีเมล์ : chobcorp.acc@chobaccountingonline.co.th

Facebook
LinkedIn
X

ผู้เขียน

พัทธนันท์ วัชรโชติธาดาพงศ์

น้ำ - พัทธนันท์ วัชรโชติธาดาพงษ์

ผู้บริหาร และนักบัญชี ที่เชี่ยวชาญด้านการทำบัญชี การวางระบบบัญชี การยื่นภาษี และการวิเคราะห์งบการเงิน เชื่อมั่นว่าทุกธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงด้วยการจัดการบัญชีและภาษีที่ถูกต้อง

Scroll to Top