หากไม่ปิดงบการเงิน จะส่งผลต่อกิจการอย่างไรบ้าง ?

หากไม่ปิดงบการเงิน จะส่งผลต่อกิจการอย่างไรบ้าง ?

ก่อนจะพูดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการไม่ปิดงบการเงิน เราต้องเข้าใจก่อนว่า งบการเงิน คืออะไร

งบการเงิน คือ รายงานที่แสดงถึงฐานะทางการเงิน ผลประกอบการ และการเปลี่ยนแปลงในฐานะทางการเงินของกิจการ โดยปกติแล้วงบการเงินประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของเจ้าของ และงบกระแสเงินสด ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ช่วยให้กิจการเข้าใจสถานะทางการเงินที่แท้จริงในแต่ละรอบบัญชี และยังช่วยให้นักลงทุน เจ้าหนี้ สถาบันการเงิน รวมถึงหน่วยงานรัฐสามารถประเมินสถานะและความน่าเชื่อถือของกิจการได้อีกด้วย

กิจการประเภทนิติบุคคลทุกแห่ง ต้องปิดงบการเงินอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง หรือเรียกว่ารอบบัญชี ซึ่งต้องส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมสรรพากร ภายใน 5 เดือนหลังจากวันสิ้นสุดรอบบัญชี เพื่อรายงานผลประกอบการให้ภาครัฐรับทราบ แต่เมื่อใดก็ตามที่ไม่ปิดงบการเงิน ก็อาจได้รับผลกระทบต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

7 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากไม่ปิดงบการเงิน

1. ถูกกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แจ้งพักใช้เลขทะเบียนนิติบุคคล

ผลกระทบที่ร้ายแรงมาก ๆ หากไม่ปิดงบการเงินก็คือ มีความเสี่ยงที่จะถูกกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สั่งพักใช้เลขทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งการพักใช้เลขทะเบียนนี้จะทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมสำคัญ ๆ ได้ เช่น เปิดบัญชีธนาคารใหม่ ขอสินเชื่อ ทำสัญญาทางธุรกิจ หรือแม้กระทั่งการดำเนินธุรกิจทั่วไปได้เลย ทั้งยังส่งผลต่อชื่อเสียงของกิจการ และความเชื่อมั่นของคู่ค้าหรือนักลงทุนที่มีต่อกิจการอีกด้วย

2. ขาดความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ

การที่กิจการที่มีสถานะเป็นนิติบุคคลไม่สามารถปิดงบการเงินอย่างถูกต้อง หรือไม่ปิดงบการเงิน ย่อมส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของกิจการ เพราะงบการเงินคือเอกสารสำคัญที่คู่ค้า นักลงทุน หรือสถาบันการเงินใช้ประกอบการตัดสินใจในการทำธุรกรรมด้วย

หากไม่มีงบการเงินที่ชัดเจน หรือมีประวัติการยื่นงบล่าช้าต่อเนื่อง อาจทำให้คู่ค้าไม่มั่นใจในการร่วมลงทุน และอาจเลือกลงทุนร่วมกับคู่แข่งที่ดูน่าเชื่อถือกว่าแทน ทำให้สูญเสียโอกาสในการเติบโตไปด้วย

3. ถูกกรมสรรพากรตรวจสอบย้อนหลัง

การที่กิจการประเภทนิติบุคคลไม่ปิดงบการเงิน หรือปิดงบการเงินล่าช้า จะทำให้กิจการเสี่ยงที่จะถูกกรมสรรพากรตรวจสอบย้อนหลังมากขึ้น โดยที่กรมสรรพากรมีหน้าที่ตรวจสอบบริษัทที่ไม่ส่งรายงานงบการเงินหรือแสดงข้อมูลไม่ครบถ้วน ว่าอาจมีเจตนาเลี่ยงภาษี หรือปิดบังรายได้ที่แท้จริงไว้หรือไม่

หากมีความผิดจริง อาจโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง พร้อมค่าปรับและเงินเพิ่มอีกด้วย

4. ไม่สามารถยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้อย่างถูกต้อง

หากกิจการที่มีสถานะเป็นนิติบุคคลไม่ปิดงบการเงิน ก็จะทำให้ไม่สามารถยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้อย่างถูกต้อง เพราะการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลจากงบการเงินที่ถูกยื่นอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะงบกำไรขาดทุน และงบแสดงฐานะการเงิน ซึ่งสะท้อนรายได้ รายจ่าย และกำไร หรือขาดทุนสุทธิของกิจการได้อย่างชัดเจน หากบริษัทไม่สามารถจัดทำ หรือปิดงบได้อย่างสมบูรณ์ ก็จะทำให้การคำนวณภาษีต่าง ๆ มีปัญหา

5. โดนค่าปรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บริษัทที่ไม่ส่งงบการเงินให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด (ภายใน 5 เดือนหลังสิ้นสุดรอบบัญชี) จะต้องต้องเสียค่าปรับ ซึ่งค่าปรับนี้อาจมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนบาทต่อรอบบัญชี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความล่าช้าของการยื่นงบการเงิน

หลักเกณฑ์ค่าปรับโดยทั่วไป มีดังนี้

1. ค่าปรับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

  • ยื่นงบการเงินล่าช้าไม่เกิน 2 เดือน ค่าปรับ 2,000 บาท (นิติบุคคล 1,000 บาท, กรรมการ 1,000 บาท)
  • ยื่นงบการเงินล่าช้าเกิน 2 เดือน แต่ไม่เกิน 4 เดือน ค่าปรับประมาณ 8,000 บาท (นิติบุคคล 4,000 บาท, กรรมการ 4,000 บาท)
  • ยื่นงบการเงินล่าช้าเกิน 4 เดือนขึ้นไป ค่าปรับประมาณ 12,000 บาท (นิติบุคคล 6,000 บาท, กรรมการ 6,000 บาท) หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับความล่าช้า และขนาดของธุรกิจ

2. ค่าปรับกรมสรรพากร ประกอบด้วย

ค่าปรับทางอาญา กรณีที่ไม่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50

  • ยื่นงบการเงินล่าช้าไม่เกิน 7 วัน ปรับ 1,000 บาท
  • ยื่นงบการเงินล้าช้าเกิน 7 วัน ปรับ 2,000 บาท

เงินเพิ่ม ในอัตราร้อยละ 1.5% ต่อเดือน ของภาษีที่ต้องชำระ (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน)

6. ปิดกิจการไม่ได้ หากไม่มีงบการเงิน

หากกิจการนิติบุคคลไม่มีงบการเงินที่ถูกต้อง จะไม่สามารถปิดกิจการได้ เพราะในการปิดกิจการนั้น จะต้องนำส่งงบการเงินย้อนหลังทั้งหมดให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อให้หน่วยงานรัฐตรวจสอบว่าไม่มีภาระหนี้สินค้างชำระ และไม่มีการเลี่ยงภาษีแต่อย่างใด และหากไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง ก็จะติดอยู่ในวงจรที่ไม่สามารถปิดกิจการได้อย่างถาวร ซึ่งหมายความว่า จะต้องรับภาระในการดูแลกิจการต่อไป ทั้งที่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจแล้ว หรืออาจจะเลิกกิจการไปนานแล้ว

7. เสียโอกาสทางธุรกิจระยะยาว

หากไม่สามารถปิดงบการเงินได้อย่างสมบูรณ์ ก็จะทำให้ขาดข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจทางธุรกิจ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุน ค่าใช้จ่าย กำไรขาดทุน รายได้ หรือแม้กระทั่งข้อมูลเชิงลึกด้านการเงินต่าง ๆ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการวางแผนธุรกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่มีข้อมูลเหล่านี้ ก็จะไม่สามารถวางแผนกลยุทธ์ในการขยายกิจการหรือการลงทุนใหม่ ๆ ได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้กิจการสูญเสียโอกาสที่จะเติบโตในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

โดยสรุปแล้ว การละเลย และไม่ปิดงบการเงินนั้น อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อกิจการ ทั้งการเสียชื่อเสียง ถูกเรียกเก็บค่าปรับจากหน่วยงานรัฐ การยื่นภาษีไม่ถูกต้อง ไปจนถึงการเสียโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว ดังนั้น ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการจัดทำและปิดงบการเงินอย่างถูกต้องตามกำหนดเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และรักษาความน่าเชื่อถือของธุรกิจให้คงอยู่อย่างยั่งยืนในระยะยาวค่ะ

บริการของเรา

  • รับปิดงบการเงิน
  • รับทำบัญชี
  • จัดทำงบการเงินและนำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
  • ยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้
  • วางแผนภาษีธุรกิจ
  • ให้คำปรึกษาด้านบัญชี-ภาษี และแก้ปัญหาเฉพาะด้านโดยผู้เชี่ยวชาญ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : สำนักงานบัญชีคุณภาพ ชอบการบัญชี
LINE : @chobaccounting
เบอร์โทร : 094-159-4561
อีเมล์ : chobcorp.acc@chobaccountingonline.co.th

Facebook
LinkedIn
X

ผู้เขียน

พัทธนันท์ วัชรโชติธาดาพงศ์

น้ำ - พัทธนันท์ วัชรโชติธาดาพงษ์

ผู้บริหาร และนักบัญชี ที่เชี่ยวชาญด้านการทำบัญชี การวางระบบบัญชี การยื่นภาษี และการวิเคราะห์งบการเงิน เชื่อมั่นว่าทุกธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงด้วยการจัดการบัญชีและภาษีที่ถูกต้อง

Scroll to Top